วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553

อาหารปักษ์ใต้



ภาคใต้... เป็นภาคที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลมากที่สุด ลักษณะภูมิประเทศ เป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล ผู้คนที่อาศัยในดินแดนแถบนี้จึงนิยมทำการประมง เพราะมีทรัพยากรในท้องทะเลมากมาย เมื่ออาศัยอยู่ชายทะเล อาชีพเกี่ยวข้องกับทะเล อาหารหลักในการดำรงชีวิตจึงเป็นอาหารทะเล อาหารส่วนใหญ่ของคนภาคใต้ มักเกี่ยวข้องกับปลา และสิ่งอื่น ๆ จากท้องทะเล อาหารทะเลหรือปลา โดยธรรมชาติจะมีกลิ่นคาวจัด อาหารภาคใต้จึงไม่พ้นเครื่องเทศ โดยเฉพาะขมิ้นดูจะเป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้เลย เพราะช่วยในการดับกลิ่นคาวได้ดีนัก ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าอาหารปักษ์ใต้จะมีสีออกเหลือง ๆ แทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา แกงส้ม แกงพริก ปลาทอด ไก่ทอด ก็มีขมิ้นกันทั้งสิ้น และมองในอีกด้านหนึ่งคงเป็นวัฒนธรรมการกินที่ผสมผสานกลมกลืนกันระหว่างชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมในภาคใต้นั่นเองเพราะชีวิตของคนภาคใต้ เกี่ยวข้องกับทะเล เมื่อออกทะเลหาอาหารมาได้มากเกิดรับประทานให้หมดในหนึ่งมื้อได้ คนภาคใต้จึงนำอาหารที่ได้จากทะเลมาทำการถนอมอาหาร เช่น กุ้งส้ม ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กุ้งแตะ ซึ่งจะมีสีเขียว งชนิดนี้เมื่อนำมาทำเป็นกุ้งส้ม สีจะออกแดง ๆ และมีรสเปรี้ยว การทำกุ้งส้มนั้น นำกุ้งมาหมักกับเกลือ น้ำตาลทราย หมักทิ้งไว้ประมาณ 7 วันจนมีรสเปรี้ยว จึงนำมาทำอาหารรับประทานได้
ปลาขี้เสียดแห้ง คือการนำปลาสีเสียดมาใส่เกลือจนทั่วตัวปลา แล้วตากแดดให้แห้ง เก็บไว้รับประทานได้นาน
ö ปลาแป้งแดง คือการนำปลาโคบ หมักกับข้าวสุก เกลือ ใส่สีแดง หมักทิ้งไว้ 3-4 วัน จึงนำมาปรุงอาหารได้
ö ปลาเค็ม คือ การนำปลามาหมักกับเกลือ เมื่อก่อนชาวประมงออกหาปลา พอได้ปลามากก็หมักกับเกลือบนเรือ ครั้นเรือเข้าฝั่งก็จะได้ปลาเค็มไว้รับประทาน
ö กุ้งแห้ง คือ การนำกุ้งที่ได้มาเคล้ากับเกลือ แล้วตากแดดให้แห้ง เก็บไว้รับประทานได้นาน
ö น้ำบูดู ได้จากการหมักปลาตัวเล็ก ๆ กับเกลือเม็ด โดยหมักไว้ในโอ่ง ไห หรือถังซีเมนต์ แล้วปิดฝาผนึกอย่างดี ตากแดดทิ้งไว้ 2-3 เดือน หรือเป็นปี จึงนำมาใช้ได้ บูดูมีทั้งชนิดหวานและชนิดเค็ม ชนิดหวาน ใช้คลุกข้าวยำ ปักษ์ใต้ ชนิดเค็ม ใช้ปรุงอาหารประเภทน้ำพริก เครื่องจิ้ม
ö พุงปลา ได้จากการเอาพุงปลาทู หรือปลารังมารีดเอาสิ่งสกปรกออก แล้วใส่เกลือหมักไว้ 1 เดือนขึ้นไป จึงนำมา ปรุงอาหารได้
ö เนื้อหนาง คือ การนำเอาหัวของวัวไปย่างไฟอ่อน ๆ จนสุกทั่วกันดี แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นขูดเอาส่วนที่ไหม้ ออกจนขาวสะอาดดี เลาะเอาแต่เนื้อ นำมาเคล้ากับเกลือ น้ำตาลปีบ หมักทิ้งไว้ 2-3 คืน จึงนำมาปรุงอาหารได้ เนื้อหนางอาจทำโดย ใช้เศษเนื้อปนเอ็นหมักก็ได้อาหารปักษ์ใต้แม้จะเป็นอาหารที่อร่อย น่าลิ้มลอง แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจผู้คน คือความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหารผู้คนในภาคใต้นิยมรสอาหารที่เผ็ดจัด เค็ม เปรี้ยว แต่ไม่นิยมรสหวาน รสเผ็ดของอาหารปักษ์ใต้มาจากพริกขี้หนูสด พริกขี้หนูแห้งและพริกไทย ส่วนรสเค็มได้จากกะปิ เกลือ รสเปรี้ยว ได้จากส้มแขก น้ำส้มลูกโหนดตะลิงปลิง ระกำ มะนาว มะขามเปียก และมะขามสด เป็นต้น
เนื่องจากอาหารภาคใต้มีรสจัด อาหารหลาย ๆ อย่างจึงมีผักรับประทานควบคู่ไปด้วย เพื่อลดความเผ็ดร้อนลงซึ่งคนภาคใต้ เรียกว่า ผักเหนาะ หรือบางจังหวัดอาจเรียกว่า ผักเกร็ด ผักเหนาะของภาคใต้มีหลายอย่าง บางอย่างก็เป็นผักชนิดเดียวกับภาคกลาง เช่น มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพู ฯลฯ แต่ก็มีผักอีกหลายอย่างที่รู้จักกันเฉพาะคนภาคใต้เท่านั้น การเสิร์ฟผักเหนาะกับอาหารปักษ์ใต้ ชนิดของผักจะคล้าย ๆกัน หรืออาจเป็นผักที่ผู้รับประทานชอบก็ได้


ประวัติขนมไทย


ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน โดยทั่วไปประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ อาหารหวานที่จัดเป็นสำรับจะต้องประกอบด้วย ของหวานอย่างน้อย 5 สิ่ง ซึ่งต้องเลือกให้มีรสชาติ สีสัน ชนิด ตลอดจนลักษณะที่กลมกลืนกันแต่ละสำรับจะต้องมีผลไม้10ที่และขนมเป็นน้ำ1ที่เสมอ
ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยโดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วยต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่าง ๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทย ๆ จนทำให้คนรุ่นหลัง ๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ ๆ และอะไร
ดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงศุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่มักเป็น "ของเทศ" เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส มัสกอดจากสกอตต์ ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำ ที่กลมกลืน พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้น ๆ

ขนมไทยที่นิยมทำกันทุก ๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่าง ๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้น ๆ งานศิริมงคลต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู
ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น

แข่งรถ

การขับขี่รถอย่างปลอดภัย




การขับขี่รถอย่างปอลอภัย การขับขี่รถบนทางด่วนดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน เพราะทุกวี่วันก็ใช้บริการทางด่วนอยู่แล้ว หรือเป็นเรื่องที่ผู้อ่านรู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจ แต่ใครจะรู้บ้างไม่ว่าเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่จะมานำเสนออาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถบ้าง
การขับขี่รถบนทางด่วนดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน เพราะทุกวี่วันก็ใช้บริการทางด่วนอยู่แล้ว หรือเป็นเรื่องที่ผู้อ่านรู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจ แต่ใครจะรู้บ้างไม่ว่าเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่"ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จะมานำเสนออาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถบ้างหากเกิดอุบัติจริง ๆ หรืออย่างน้อยก็เป็นความรู้ที่ผู้ใช้รถเป็นพาหนะคู่กายควรจะรับรู้ไว้ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไร

ข้อควรจำในการใช้ทางด่วน โดยหลักการแล้ว การขับรถบนทางด่วนจะง่ายกว่าการขับรถบนท้องถนนธรรมดา เนื่องจากไม่มีสี่แยกและไม่มีรถวิ่งสวนมา แต่ด้วยเป็นการขับบนทางด่วน ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง หรือโศกนาฎกรรมอันใหญ่หลวงได้ ลักษณะเฉพาะของอุบัติเหตุบนทางด่วน ส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุชนกัน หรืออุบัติเหตุเดี่ยว (รถคันเดียว) การขับรถบนทางด่วน การเตรียมการล่วงหน้าดังต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก 1.วางแผนขับรถอย่างสบาย ๆไม่รีบร้อน เมื่อขับรถบนทางด่วนในระยะทางยาว ๆ ผู้ขับเพียงแต่เหยียบคันเร่งเพียงอย่างเดียว จึงสามารถทำให้ง่วนนอนได้ ความระมัดระวังจึงลดน้อยลง ทำให้ผิดพลาดได้ เมื่อไรจะใช้ทางด่วนพึงควรปฎิบัติดังนี้ -ตรวจสอบจุดบริการ และจุดจอดรถไว้ล่วงหน้า -กำหนดล่วงหน้าว่าจะจอดพักที่ไหนและเติมน้ำมันที่ไหน

2.ต้องตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนเดินทาง การตรวจสอบรถยนต์และสัมภาระควรทำแต่เนิ่น ๆ อย่าพยายามตรวจอย่างเร่งรีบก่อนออกเดินทางหรือขึ้นทางด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างลืมตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ให้เรียบร้อย - เชื้อเพลิง ปริมาณน้ำมันมีพอหรือไม่ - หม้อน้ำ ปริมาณน้ำในหม้อน้ำมีพอหรือไม่ หม้อน้ำรั่วไหม - มีน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกพอหรือไม่ - สายพานพัดลมตึงพอดีไหม มีรอยขาดหรือไม่ - ยางเก่าเกินไปหรือเปล่า ลมยางแข็งกว่าปกติ 20-30% หรือไม่ สัมภาระ ใช้เชือกผูกอย่างแข็งแรงแน่นหนาแล้วหรือยัง นอกจากนี้ ควรนำไฟหรือแผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายแสดงว่ามีรถกำลังจอดอยู่ (ป้ายสามเหลี่ยม) นำไปติดตั้งไปด้วย เผื่อรถกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนแล้วจำเป็นต้องจอดรถบนทางด่วน

3.สนใจติดตามข่าวการจราจร หากผู้ขับขี่ไม่ทราบข่าวคราวการจราจรที่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุให้ต้องรีบเร่งและเกิดกังวลกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเมื่อจะใข้ทางด่วนควรจะ -สอบถามไปยังศูนย์ข้อมูลการจราจรวล่วงหน้าเพื่อขอทราบข้อมูล -ให้ความสนใจเครื่องหมายจราจรหรือแผ่นป้ายต่างๆ บนทางด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มองข้ามข้อมูลที่สำคัญไป -ใช้วิทยุในรถฟังข่าวจราจร 4.ควรรัดขัดเข็มนิรภัยทุกครั้ง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถทุกคนควรรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุในกรณีที่คาดไม่ถึง นอกจากนั้นแล้วเข็มขัดนิรภัยยังช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่านั่งที่ถูกต้อง และยังมีประโยชน์ช่วยลดความเมี่อยล้าและทำให้ขับรถได้อย่างมั่นคง

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

ประวัติ...

รหัสิต 50011315141
ชื่อ นายฉัตรชัย พรมจ้าย
ชื่อเล่น แซม
คณะที่เรียน วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
สาขา นิติศาสตร์
ชั้น ปีที่ 4
หมายเลขโทรศัพท์ 0892832167
ประวัติการศึกษา
ระดับ อนุบาล ที่ร.ร. อนุบาล วิทยาสรร
ระดับประถม ที่ ร.ร บ้านดู่ใหญ่
ระดับม.ปลายที่ ร.ร บ้านไผ่ ขก.5
อาหารที่ชอบ อาหารจำพวกลาบ
งานอดิเรก อ่านหนังสือ เล่นกีฬา
คติประจำใจ คนโง่ย่อมตก เป็นเหยื่อของคนฉลาด
สเปกหญิงในดวงจัย..ขาว..สูง..เนียนๆ..นิสัยต้องทนความชั่วในตัวเราได้
รหัสิต 50011315141
ชื่อ นายฉัตรชัย พรมจ้าย
ชื่อเล่น แซม
คณะที่เรียน วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
สาขา นิติศาสตร์
ชั้น ปีที่ 4
หมายเลขโทรศัพท์ 0892832167
ประวัติการศึกษา
ระดับ อนุบาล ที่ร.ร. อนุบาล วิทยาสรร
ระดับประถม ที่ ร.ร บ้านดู่ใหญ่
ระดับม.ปลายที่ ร.ร บ้านไผ่ ขก.5
อาหารที่ชอบ อาหารจำพวกลาบ
งานอดิเรก อ่านหนังสือ เล่นกีฬา
คติประจำใจ คนโง่ย่อมตก เป็นเหยื่อของคนฉลาด
สเปกหญิงในดวงจัย..ขาว..สูง..เนียนๆ..นิสัยต้องทนความชั่วในตัวเราได้..

มวยไทยกับคนไทย




มวยไทยกับคนไทย
....จากการจำแนกเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ คนไทยมีเชื้อชาติอยู่ในกลุ่มมองโกเลีย ลักษณะร่างกายโดยทั่วไปตัวเล็กกว่าคนที่อาศัยอยู่ในเขตหนาว ความสูงโดยเฉลี่ย 5 ฟุต 3 นิ้ว ร่างกายล่ำสัน สมส่วน ทะมัดทะแมง น้ำหนักตัวน้อย มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นสูง มือมีเนื้อนุ่มนิ่ม ผิวสีน้าตาลอ่อน ผมดกดำ ขนตามตัวมีน้อย เคราไม่ดกหนา รูปศีรษะเป็นสัดส่วนดี ลูกตาสีดำตาขาวมีสีเหลืองเล็กน้อย กระพุ้งแก้มอวบอูม ใบหน้ากลม เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นเมืองร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ใช้เรือเป็นพาหนะ จึงทำให้คนไทยสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น ไม่สวมหมวกและรองเท้า สามารถใช้อวัยวะหมัด เท้า เข่า ศอก ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว จึงนำไปผสมผสานกับการใช้อาวุธมีด ดาบ หอก เพื่อป้องกันตนเองและป้องกันประเทศ

....มวยไทยนั้นมีมาพร้อมกับคนไทย เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยมาช้านาน ในสมัยโบราณประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ จึงมีการสู้รบกันอยู่เสมอๆ ดังนั้นชายไทยจึงนิยมฝึกมวยไทยควบคู่กับการฝึกอาวุธ ต่อมาได้วิวัฒนาการจนกลายเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น มีลีลาการเคลื่อนไหวที่สวยงามแฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่งดุดัน สามารถฝึกเพื่อป้องกันตนเอง เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย และเพื่อเป็นอาชีพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

2. มวยไทยในสมัยกรุงสุโขทัย
....สมัยกรุงสุโขทัยเริ่มประมาณ พ.ศ.1781 - 1951 รวมระยะเวลา 140 ปี หลักฐานจากศิลาจารึกกล่าวไว้ชัดเจนว่า กรุงสุโขทัยทำสงครามกับประเทศอื่นรอบด้าน จึงมีการฝึกทหารให้มีความรู้ความชำนาญในรบด้วยอาวุธ ดาบ หอก โล่ห์ รวมไปถึงการใช้อวัยวะของร่างกายเข้าช่วยในการรบระยะประชิดตัวด้วย เช่น ถีบ เตะ เข่า ศอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรบ

....หลังเสร็จสงครามแล้ว ชายหนุ่มในสมัยกรุงสุโขทัยมักจะฝึกมวยไทยกันทุกคนเพื่อเสริมลักษณะชายชาตรี เพื่อศิลปะป้องกันตัว เพื่อเตรียมเข้ารับราชการทหารและถือเป็นประเพณีอันดีงาม ในสมัยนั้นจะฝึกมวยไทยตามสำนักที่มีชื่อเสียง เช่น สำนักสมอคอน แขวงเมืองลพบุรี นอกจากนี้ยังมีการฝึกมวยไทยตามลานวัดโดยพระภิกษุอีกด้วย วิธีฝึกหัดมวยไทยในสมัยกรุงสุโขทัย ครูมวยจะใช้กลอุบายให้ศิษย์ ตักน้ำ ตำข้าว ผ่าฟืน ว่ายน้ำ ห้อยโหนเถาวัลย์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและอดทนก่อนจึงเริ่มฝึกทักษะ โดยการผูกผ้าขาวม้าเป็นปมใหญ่ๆไว้กับกิ่งไม้ แล้วชกให้ถูกด้วยหมัด เท้า เข่า ศอก นอกจากนี้ยังมีการฝึกเตะกับต้นกล้วย ชกกับคู่ซ้อม ปล้ำกับคู่ซ้อม จบลงด้วยการว่ายน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนนอน ครูมวยจะอบรมศีลธรรมจรรยา ทบทวนทักษะมวยไทยท่าต่างๆ จากการฝึกในวันนั้นผนวกกับทักษะท่าต่างๆ ที่ฝึกก่อนหน้านี้แล้ว

....สมัยกรุงสุโขทัยมวยไทยถือว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาของกษัตริย์ เพื่อฝึกให้เป็นนักรบที่มีความกล้าหาญ มีสมรรถภาพร่างกายดีเยี่ยม เป็นกษัตริย์ที่เก่งกล้าสามารถในการปกครองประเทศต่อไป ดังความปรากฏตามพงศาวดารว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์กษัตริย์กรุงสุโขทัยพระองค์แรกทรงเห็นการณ์ไกลส่งเจ้าชายร่วงองค์ที่ 2 อายุ 13 พรรษา ไปฝึกมวยไทยที่ สำนักสมอคอน แขวงเมืองลพบุรี เพื่อฝึกให้เป็นกษัตริย์ที่เก่งกล้าในอนาคต และในปี พ.ศ. 1818 - 1860 พ่อขุนรามคำแหงได้เขียนตำหรับพิชัยสงคราม ข้อความบางตอนกล่าวถึงมวยไทยด้วย นอกจากนี้พระเจ้าลิไท เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ทรงได้รับการศึกษาจากสำนักราชบัณฑิตในพระราชวังมีความรู้แตกฉานจนได้รับยกย่องว่าเป็นปราชญ์ ซึ่งสำนักราชบัณฑิตมิได้สอนวิชาการเพียงอย่างเดียว พระองค์ต้องฝึกภาคปฏิบัติควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยมือเปล่าแบบมวยไทย และการใช้อาวุธ คือ ดาบ หอก มีด โล่ห์ธนู เป็นต้น

อาหารไทยอีสาน

อาหารไทยภาคอีสาน
มีข้าวเหนียวนึ่งเป็นหลักเช่นเดียวกับภาคเหนือ รับประทานกับลาบไก่ หมู เนื้อ หรือ ลาบเลือด ส้มตำ ปลาย่าง ไก่ย่าง จิ้มแจ่ว ปลาร้า อาหารภาคนี้จะนิยมปิ้ง หรือย่างมากกว่าทอด อาหารทุกชนิดต้องปรุงรสจัด เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหาร ได้แก่ สัตว์ที่ชาวบ้านหามาได้ เช่น กบ เขียด แย้ งู หนูนา มดแดง แมลงบางชนิด ส่วนเนื้อหมู วัว ไก่ และเนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็นิยมตามความชอบ และฐานะ สำหรับอาหารทะเลใช้ปรุงอาหารน้อยที่สุด เพราะนอกจากจะหายากแล้วยังมีราคาแพงอีกด้วย
อาหารไทยภาคอีสาน
มีข้าวเหนียวนึ่งเป็นหลักเช่นเดียวกับภาคเหนือ รับประทานกับลาบไก่ หมู เนื้อ หรือ ลาบเลือด ส้มตำ ปลาย่าง ไก่ย่าง จิ้มแจ่ว ปลาร้า อาหารภาคนี้จะนิยมปิ้ง หรือย่างมากกว่าทอด อาหารทุกชนิดต้องปรุงรสจัด เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหาร ได้แก่ สัตว์ที่ชาวบ้านหามาได้ เช่น กบ เขียด แย้ งู หนูนา มดแดง แมลงบางชนิด ส่วนเนื้อหมู วัว ไก่ และเนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็นิยมตามความชอบ และฐานะ สำหรับอาหารทะเลใช้ปรุงอาหารน้อยที่สุด เพราะนอกจากจะหายากแล้วยังมีราคาแพงอีกด้วย